Captain Hook Resort, Koh Kood

หลังจากเดินทางไปเกาะล้าน พัทยามาเมื่อต้นเดือนเมษายน คราวนี้ถึงเวลาของเกาะกูด จังหวัดตราดบ้างแล้วครับ 2-3 ปีก่อนผมเคยมาเยือนเกาะกูดแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไปกับทางอาณาเลรีสอร์ทครับ ซึ่งผมก็ประทับใจอยู่แล้ว ก็เลยพาพี่ๆ น้องๆ ชมรมถ่ายภาพอีกกลุ่มหนึ่งมาเที่ยวทางรีสอร์ทนี้บ้าง เพราะหลายๆ คนประทับใจ Captain Hook Resort มากทีเดียวครับ บันทึกการเดินทางก็เริ่มกันที่สำนักงานของ Captain Hook/Peterpan Resort ที่อยู่บนแหลมศอก ห่างจากที่พักเราเมื่อคืนก่อนเดินทางคือเหลายาอินแลนด์ประมาณ 30 กิโลเมตรครับ สำหรับค่าใช้จ่ายของที่นี่เรามากันแบบ package tour 3 วัน 2 คืนครับ ราคาที่พวกเราซื้อคือ 6,800 บาทต่อคน

สะพานปลาแถวๆ office ของ Captain Hook Resort ครับ ตรงนี้ไว้รอคนอื่นๆ ที่จะลงเรือลำเดียวกันนะครับ กำหนดการออกเรือของกลุ่มเราในวันนี้คือ 09:00 AM ครับ
พวกเรามากันถึงประมาณ 08:30 AM ครับ แถวนั้นมีอะไรให้ทานนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็มีร้านสะดวกซื้อให้ได้ซื้อขนมและน้ำทานกันครับ
อันนี้คือท่าเรือแหลมศอกครับ ใช้กันไม่กี่รีสอร์ทเท่านั้นเอง ถ้าเป็นกลุ่มที่ไปเกาะช้าง ส่วนใหญ่จะไปขึ้นที่แหลมงอบแทนครับ
พี่ที่น่ารักทั้งสองคนที่ไปด้วยกันครับ พวกเราไปกัน 14 คน แล้วก็มีคนอื่นๆ มาแจมบนเรืออีก 5 คนครับ
ระหว่างทางก็ใช้เลนส์ 50 ตัวเดียวทั่วไทยนี่ล่ะครับ ถ่ายภาพบรรยากาศรอบๆ ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางก็ประมาณ 50 นาทีเท่านั้นนะครับด้วย speedboat ถือว่าเร็วมากๆ เลยนะครับ โชคดีที่เราเจอทะเลเรียบครับ ^ ^
และแล้วเราก็มาถึงจุดหมายครับ เอาแนวหินไปชมก่อนแล้วกันครับ หันไปทางขวาอีกหน่อยจากมุมเมื่อกีหันไปทางขวาอีกหน่อยจากมุมเมื่อกี้นะครับ
สต๊าฟของ Captain Hook Resort ช่วยกันลำเลียงเสบียงครับ
หลังจากได้กุญแจห้องแล้ว เราก็เดินทางตัวเบาๆ ไปที่ห้องพักครับ ห้องที่พวกเราจองเป็นห้อง Deluxe Villa ครับ เพราะว่าจะมี staff ของทาง Captain Hook Resort ยกกระเป๋าหนักๆ ไปไว้ให้เราที่ห้องเองครับ บริการดีมากๆ ครับ
พวงกุญแจห้องน่ารักมากเลยครับ แต่อยากจะบอกว่าถ้าใครที่เป็นคนไม่ชอบเดินไกลๆ เลือก Villa ที่มีตัวเลขน้อยๆ หน่อยก็ดีนะครับ ^ ^
หลักจากเก็บกระเป๋าสัมภาระต่างๆ ในห้องแล้ว เราก็มาเดินสำรวจรีสอร์ทกันครับ ชานนั่งเล่นติดทะเลแบบนี้ จะมีอยู่เป็นระยะๆ นะครับ สามารถไปใช้นั่งเล่นทำกิจกรรมกันได้ครับ
สัญญาณมือถือที่นี่ใช้ได้ทุกค่ายเลยนะครับ แต่รีสอร์ทแห่งนี้ สามารถใช้ Wi-Fi ได้เมื่ออยู่โซนร้านอาหารเท่านั้นนะครับ
ใครอยากจะนั่งเหงาๆ ทำมิวสิคอะไรก็ได้ตามสบายเลยครับ วันที่ไปฟ้าสวยมากเลยทีเดียวครับ แต่แลกมากับอากาศร้อนๆ มากๆ เช่นกันครับ โชคดีมากๆ เลยที่พวกเราไม่เจอฝน เพราะพยากรณ์อากาศบอกไว้ว่าจะมีฝนตก 40% ของพื้นที่
ตรงนี้เป็นมุมสระน้ำครับ ด้านหน้าก็เป็นมุมทะเลเลย น้ำใสมากๆ ครับ
ตรงนี้เป็นสระว่ายน้ำนะครับ วิวิวสวยเลยทีเดียว
เห็นอะไรตัวเล็กๆ เกาะอยู่หรือเปล่าครับ
เสาไม้อันนี้จะเป็นจุดที่เจ้านกน้อยสองตัวชอบมาเกาะ แล้วก็ไม่ค่อยจะกลัวคนด้วยสิครับ ที่ถ่ายมาได้ก็ตอนตัวเดียวเกาะอยู่ครับ
แล้วพอมันจะบิน มันก็บินไป เป็นสิ่งที่ๆ อื่นอาจจะไม่มีแบบนี้ให้เห็นนะครับ ^ ^
แถวๆ ร้านอาหารหรือผมจะเรียกว่า Lobby แล้วกันนะครับ ก็จะมีปลาที่มารออาหารทั้งปลาเสือตัวเล็กๆ และปลาชนิดอื่น รวมทั้งเจ้าปลาตัวเล็กๆ ที่เห็นในภาพครับ
จาก Lobby เราก็จะเห็นทะลหลายๆ มุมนะครับ ก็จะมีนักท่องเที่ยวนั่งเรือผ่านมาบ้าง พาย kayak ผ่านมาบ้าง
ที่ Captain Hook Resort มี kayak ให้เราพายเล่นตลอดเวลานะครับ เราไปแบบ package tour ก็เลยไม่มีค่าใช้จ่ายตรงนี้ครับ
สำหรับ kayak เราสามารถพายไปด้านซ้าย ก็จะไปเจอป่าชายเลน ป่าโก่งกางสองข้างทางนะครับ พายไปด้านหน้าก็จะมีหาดทรายขาวๆ ให้เล่นน้ำ พายไปทางขวาก็จะออกทะเลไปเลยครับ
ถ่ายอุปกรณ์มาให้ชมกันครับ พาย kayak อย่าลืมใส่เสื้อชูชีพด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัย
ที่ Captain Hook Resort มีเจ้าถิ่นอยู่ 2 ตัวครับ สีน้ำตาลกับสีดำ สีน้ำตาลชือว่า SPRAY นะครับผมก็ลืมถามว่า SPRAY คือ SPRAY ฉีดผมหรือว่าชื่อ SPREY เหมือนยี่ห้อเหล้าเมื่อก่อน ^ ^” ส่วนสีดำอีกตัวชื่อ MILO ครับ
นี่คือโฉมหน้าเจ้า SPRAY ซึ่งจะชอบออกไปเล่นน้ำมากกว่าเจ้า MILO ครับ
นี่ครับ เจ้า MILO ที่พูดถึง น้องๆ STAFF บอกว่าเจ้าสองตัวนี้ กัดลูกบอลแตกไปหลายลูกแล้วครับ ใครอยากจะไปเตะบอลชายหาด คงต้องพกไปเองนะครับ ทางรีสอร์ทคงซื้อไม่ไหวแล้วครับ
ดูสิว่าเจ้า SPRAY ว่ายออกไปไกลขนาดไหนครับ
จะเห็นว่าน้ำทะเลที่ไหนใสมากๆ เลยนะครับ
มีเรือมาเทียบท่าแล้วครับ น่าจะเป็นนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มครับ
ถึงตรงนี้คอแห้งแล้วครับ ไปหาอะไรดื่มกันดีกว่าครับ
มาดูกันครับว่ามีอะไรทานกันบ้าง อยากจะบอกว่าหลายอย่างมากๆ ครับ ก็เลือกชิมเลือกทานได้ตามสบายเลยครับ
ทั้งอาหารธรรมดาๆ อย่างกระเพราหรือจะเป็นอาหารทะเล ที่นี่มีให้หมดครับ
ไข่เจียวของโปรดของใครบางคนก็ยังมีให้ทานครับ
ทานแบบรวมๆ กัน อย่างละนิดละหน่อยก็ได้นะครับ
บนเกาะ ก็ยังหาไอศครีมทานได้ครับ ^ ^
นั่งทานข้าว หันหน้าเข้าหาทะเล ลมพัดเย็นๆ ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ช่างมีความสุขดีจริงๆ ครับ
ด้านขวาของ Lobby จะมีจุดดูพระอาทิตย์ตกครับ
ตอนนี้มีคนอยากลองพายแล้วสิ
มาชมน้องในกลุ่มอีกคนพาย Kayak ถ่ายรูปเล่นกันบ้างครับ
ไม้ใกล้ฝั่งครับ ^ ^”
วิวซ้ายมือจากจุดที่มีศาลาติดกับที่จอดเรือ kayak นะครับ
หันไปด้านขวาอีกนิดนะครับ ก็จะเห็นหาดขวามือเยอะขึ้น
ลองเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนบ้างครับ ซึ่งเป็นโซนของ Mini Pool Villa ครับ

 

ที่ล้างตัวหลังจากพาย Kayak ครับ
พายเรือ kayak เล่นกันอย่างสนุกสนานครับ
น้ำก็ใสมากๆ ครับ
ถ่ายใต้น้ำครับ น้ำใสมากๆ เลย
พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้วครับ ได้เวลาทานมื้อเย็นอร่อยๆ กันแล้ว
ไปสนุกกันต่อที่สระว่ายน้ำครับ
วิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ครับ
ถ่าย silhouette กันสนุกเลยครับ
มีนักท่องเที่ยวคนอื่นมาเก็บภาพด้วยครับ
มาดูแสงสียามกลางคืนกันบ้าง สำหรับที่นี่นะครับ มีไฟใช้ตลอดวันนะครับ
บาร์เหล้าก็ติดทะเลครับ ใครมาเป็นคู่ น่าจะโรแมนติคมากๆ ครับ
Dinner is ready! อาหารบางส่วนได้นำมาวางแล้วครับ แล้วน้องพนักงานก็จะมาย้ำว่า เติมได้ตลอดครับ
ปูม้านึ่งอร่อยๆ ครับ
บรรยากาศทานอาหารกันครับ
อีกมุมหนึ่งครับ ของการรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
ช่วงสองทุ่มจะมีการรำกระบองไฟโชว์นะครับ น้องๆ เก่งมากๆ ครับ
น้องๆ พนักงานที่นี่เก่งมากๆ ครับ ทำอะไรได้หลายอย่าง ทั้งทำอาหารให้พวกเราทาน พาเราออกไปดำน้ำ สารพัดครับ
หลังแสดงเสร็จ สามารถกลับไปนั่งทานได้ต่อนะครับ ครัวจะปิดประมาณสามทุ่มกว่าๆ ครับ
ได้เวลานอนแล้วครับ ถ่ายภาพเส้นทางกลับไปบ้านพักให้ชมกันสักหน่อย ลืมบอกไปนะครับว่าเขาจะเปิดระบบแอร์เริ่มตอนห้าโมงครึ่งไปจนถึงเก้าโมงเช้าเท่านั้นนะครับ ดังนั้นถ้าอยู่ในห้องตอนกลางวันแล้วร้อนมาก แนะนำให้ไปนั่งเล่นที่ Lobby รับลมเย็นๆ เล่น Wi-Fi ไปแล้วกันนะครับ ถ้าไม่คิดจะทำกิจกรรมอื่นๆ
ถึงห้องพักแล้วนะครับ
ขอชาร์จ batt ทั้งคนและกล้องถ่ายรูปกันน้ำตัวนี้ก่อนนะครับ
นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ
เช้าของอีกวันแล้ว มาดูบรรยากาศรวมๆ ของที่นี่กันนะครับ ก่อนที่พวกเราจะมีคิวไปดำน้ำกันในตอนบ่ายโมง
อารมณ์เหงาๆ ตอนเช้าๆ หน่อยนะครับ
อาหารเช้าพร้อมแล้วครับ มีทั้งข้าวต้ม เกาเหลาเลือดหมูและอาหารปกติ พร้อมผลไม้อร่อยๆ ครับ
อันนี้เป็นจานผม ไว้ทานกับข้าวต้มร้อนๆ อร่อยๆ ครับ
สลัดก็มีให้ทานครับ
น้องที่ทำงานที่นี่บอกว่า ปลาพวกนี้รู้ว่าจะได้รับอาหารแถวนี้จากนักท่องเที่ยวบ่อยๆ มันก็เลยไม่ว่ายไปทางอื่นเลย รอคนให้เศษขนมปังหมดอายุมาทาน
เมนูไข่คนก็เป็นอีกหนึ่งในอาหารเช้าครับ
เจ้านกตัวเดิมมาประจำการที่เสาต้นนี้อีกแล้วครับ
เช้านี้จะมีกลุ่มออกไปดำน้ำกันครับ น้องคนนี้เลยเตรียมเรือไว้ เห็นไกลๆ โน่นก็เช่นเคยครับ เจ้า SPRAY เล่นน้ำเช้าๆ เลย
วันที่เราไปเป็นจันทร์ อังคาร พุธ ถึงแม้เป็นวันธรรมดา ก็ยังเป็นหน้า High Season อยู่ คนก็เยอะพอสมควรเลยครับ ดีเหมือนกันครับ ไม่เหงียบเหงาดี
เดินแว้บไปดูพี่เขาตกปลาด้านหลังซะหน่อยครับ
มีเรือมาเทียบท่าตลอด เตรียมของให้ลูกค้าอย่างพวกเรา น้ำแข็ง/น้ำกระเจี๊ยบ/น้ำเปล่า ก็มีให้ทานตลอด
ถ้ายังไม่อยากทำกิจกรรมกลางแจ้งหนักๆ สระน้ำก็เป็นที่ๆ ทำให้คลายร้อนได้ครับ เพราะเช้านี้อากาศอบอ้าวเหลือเกิน
ลูกบอลต้องนำมาเองนะครับ เพราะอย่างที่บอกไว้ เจ้าถิ่นไล่กัดบอลขาดไปหลายลูกแล้วครับ
ตอนนี้เท่าที่เห็นก็มีเด็กเล่นน้ำอยู่ 2-3 คน คุยกับเด็กกลุ่มนี้ เขาบอกว่าพ่อแม่พาเขามาที่นี่ทุกปีเลย โหยยยย…
เผลอแป๊ปเดียวก็มื้อเที่ยงแล้วครับ เดี๋ยวทานเสร็จ บ่ายโมงก็จะออกไปดำน้ำกันครับ
เตรียมขึ้นเรือไปดำน้ำกันได้แล้วครับ ก่อนหน้านี้เขาให้เราไปเบิก snorkel กับเสื้อชูชีพครับ
ออกเดินทางกันครับ
speedboat พาเรามาที่เกาะรังเพื่อฝึกการใช้ snorkel ก่อนพร้อมแนะนำความปลอดภัยในการขึ้นเรือครับ
ถึงตอนนี้แต่ละคน เตรียมกล้องกันน้ำตัวโปรดเอามาใช้กันอย่างสนุกสนานครับ
ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบ snorkel นะครับ สนุกกันใหญ่ 555
คำเตือนคำแนะนำต่างๆ จากพี่คนขับเรือครับ
มีเรืออื่นมาจอดดำน้ำแถวๆ นั้นด้วยครับ
ได้เวลาดำน้ำของจริงกันแล้วครับ
เนื่องจากผมว่ายน้ำไม่เก่ง ทางน้องๆ ทีมงานเขาก็เลยบอกให้แค่อยู่เฉยๆ แล้วเขาก็จะดึงไปเองครับ ขาก็ไม่ต้องตี แล้วคนอื่นๆ ที่ไม่อยากเหนื่อยมากหรือว่ายน้ำไม่แข็ง ก็เกาะกลุ่มกันไปครับ
ไม่ใช่กล้อง Panasonic Lumix FT2 อย่างเดียวที่กันน้ำครับ นาฬิกาผมก็กันน้ำเหมือนกัน ^ ^
ปะการังใต้น้ำครับ
นานๆ คนดอยอย่างเราจะได้ถ่ายภาพใต้น้ำที ถ่ายกันสนุกไปเลยครับ
น้องที่นำเราตอนดำน้ำพยายามให้ความรู้กับเรา ด้วยการบอกว่าสิ่งที่เรามองเห็นด้านล่างนั้นคืออะไร
บางจังหวะถึงกับลงไปชี้ให้ดูกันเลยทีเดียวครับ
ห้อยขากันไปห้อยขากันมา ทางพี่ที่แนะนำการดำน้ำเตือนไว้ว่า ยังไงก็อย่าเอาขาลงเด็ดขาด เพราะนอกจากอาจจะทำลายปะการังแล้ว อาจจะเจอหอยเม่นที่มีอยู่เต็มไปหมดตำขาได้ครับ
ลากกันไปอย่างที่เห็นในภาพนี่ล่ะครับ
ผมใช้ Panasonix Lumix FT2 ถ่ายทั้ง HD Video ใต้น้ำรวมไปถึงภาพหนึ่ง และแล้วมันก็ดับใต้น้ำไปเฉยๆ ตอนแรกผมคิดว่า battery มันหมด แต่พอมารู้ทีหลัง มันได้จากผมไปซะแล้ว T T
กลับมาจากดำน้ำ ผมก็ไม่กล้องกันน้ำใช้ ก็ไม่ได้เก็บภาพตอนออกไปพาย kayak เล่นอีกรอบแล้วครับ จนกระทั่งพระอาทิตย์ตก ก็เลยเอากล้อง DSLR มาถ่ายภาพบรรยากาศกันต่อครับ
เกาะที่เห็นเบื้องหน้าชื่อว่าเกาะแรด เป็นฉากสวยๆ ให้เราได้เห็นกันก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
มาถึงมื้อเย็นซึ่งวันนี้จัดว่าเป็นมื้อใหญ่ที่สุด เพราะจะมีปูเนื้อมาเสิร์ฟกัน ทานได้ไม่อั้นเช่นเคยครับ
จานแรกที่ลงก็จะเป็นปูตัวใหญ่ๆ จานหลังๆ ปูก็ตัวเล็กลงครับ แต่ก็อร่อยและสดอยู่ดี
เช้าวันสุดท้าย เรามีเวลาไม่มากนักครับ เพราะเรือออกประมาณเก้าโมงเช้า จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยเก็บกระเป๋าใบใหญ่ๆ หน้าห้องพักให้มาไว้ที่ Lobby ครับ
มาชมบรรยากาศเช้าวันนี้กันครับ

เจ้าถิ่นอย่าง SPRAY ก็มานั่งเอาแดดอุ่นๆ ในตอนเช้ากับเขาเสียด้วย
เรือที่เห็นอยู่เป็นเรือรบนะครับ เราคงไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ
มุมนี้เป็นมุมที่เราดูพระอาทิตย์ตกกันเมื่อคืนนี้ครับ
มุมตรงบาร์เหล้า
เช้าๆ ก็มีนักท่องเที่ยวออกกำลังกายด้วยการพาย kayak
ให้อาหารปลากันสักหน่อย
น้องๆ พนักงานใส่เสื้อสีเขียวกำลังวุ่นอยู่กับการส่งลูกค้าแล้วพร้อมกับการรับลูกค้าใหม่
นี่คือ counter ของที่นี่นะครับ ใครมีอะไรขาดเหลือก็ติดต่อได้ครับ ที่นี่มี postcards จำหน่ายแล้วก็มีเสื้อที่ระลึกขายเช่นกันครับ
สัมภาระของพวกเราก่อนขึ้นเรือกลับ

ยกของลงเรือกันแล้ว

ถ่ายรูปหมู่ด้วยกันก่อนขึ้นเรือครับ
การบริการของน้องๆ ที่นี่เยี่ยมมากๆ ครับ ผู้สูงอายุหรือเด็กที่ขึ้นเรือลงเรือไม่สะดวก พวกน้องๆ จะกรูเข้ามาช่วยกันครับ
ถึงเวลาบอกลากันแล้ว
บอกลาไปกลับภาพนี้นะครับ ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ทั้ง 13 คนที่เดินทางไปด้วยกันครับ ขอบคุณ Captain Hook Resort ที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดีครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามรับชมครับ

 

ปิดท้ายด้วย HD Video สรุปทริปวันนี้ครับ Enjoy watching ครับ

Show Buttons
Hide Buttons